สำหรับไปหาครอบครัว/แฟนที่เกาหลี

วีซ่าเยี่ยมเยียน หลายคนอาจคุ้นเคยกับวีซ่าท่องเที่ยว (C-3-9) ที่มักยื่นขอหลัง K-ETA ไม่ผ่าน แต่รู้หรือไม่ว่าเกาหลีใต้ยังมีวีซ่าอีกประเภทหนึ่งที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีครอบครัว, ญาติ, หรือมีแฟนเป็นชาวเกาหลี นั่นคือ วีซ่าเยี่ยมเยียน (General Short-term Visa, C-3-1) วันนี้ Couplemarryvisa จะพาไปเจาะลึกว่าวีซ่าประเภทนี้คืออะไร, ใครที่ขอได้, และต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง เพื่อให้คุณวางแผนการเดินทางไปหาคนสำคัญของคุณได้อย่างราบรื่น

วีซ่าเยี่ยมเยียน (C-3-1) คืออะไร? ต่างจากวีซ่าท่องเที่ยวอย่างไร?
วีซ่า C-3-1 คือวีซ่าระยะสั้น (ไม่เกิน 90 วัน) ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการเยี่ยมเยียนโดยเฉพาะ ความแตกต่างที่สำคัญที่สุดคือ ต้องมีผู้เชิญ (Inviter) อยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งผู้เชิญจะต้องเป็นผู้ดำเนินการออกเอกสารสำคัญเพื่อรับรองการเดินทางของคุณ
- วีซ่าท่องเที่ยว (C-39) เน้นพิสูจน์สถานะทางการเงินและการงานของผู้เดินทางเป็นหลัก เพื่อแสดงว่าจะไปเที่ยวและกลับมาแน่นอน
- วีซ่าเยี่ยมเยียน (C-3-1) เน้นเอกสารจาก “ผู้เชิญ” ในเกาหลีใต้เป็นหัวใจสำคัญ เพื่อยืนยันความสัมพันธ์และรับรองการเดินทางของผู้สมัคร
ใครสามารถขอวีซ่า C-3-1 ได้บ้าง?
วีซ่าประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีจุดประสงค์การเดินทางเพื่อเยี่ยมบุคคลเหล่านี้ที่พำนักอยูในเกาหลีใต้อย่างถูกกฎหมาย
- ครอบครัว พ่อ, แม่, พี่, น้อง, ลูก
- ญาติ ปู่, ย่า, ตา, ยาย, ลุง, ป้า, น้า, อา
- แฟน/คู่หมั้น กรณีที่คบหากันอย่างจริงจังและมีหลักฐานความสัมพันธ์ที่ชัดเจน

เช็กลิสต์เอกสาร: ต้องเตรียมอะไรบ้าง?
การขอวีซ่า C-3-1 จะต้องเตรียมเอกสารทั้งจากฝั่งผู้สมัคร (คนไทย) และผู้เชิญ (ที่เกาหลี)
ฝั่งผู้สมัคร (Applicant) ที่ประเทศไทย
- เอกสารพื้นฐาน
- แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่า พร้อมติดรูปถ่ายสีพื้นหลังขาว
- หนังสือเดินทาง (Passport) ตัวจริงและสำเนา ที่มีอายุเหลือไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
- เอกสารพิสูจน์ความสัมพันธ์
- ทะเบียนบ้าน, สูติบัตร, ทะเบียนสมรส ฯลฯ ที่แปลเป็นภาษาอังกฤษและรับรองโดยกรมการกงสุล
- สำหรับแฟน/คู่หมั้น หลักฐานแสดงความสัมพันธ์ เช่น รูปถ่ายคู่, ประวัติการติดต่อทางแชท, อีเมล, ใบเสร็จการโอนเงิน (ถ้ามี)
- เอกสารส่วนตัว
- หนังสือรับรองการทำงาน หรือ หนังสือรับรองการเรียน (ถ้ามี)
- Bank Statement ย้อนหลัง เพื่อแสดงสถานะทางการเงินส่วนตัวประกอบ
ฝั่งผู้เชิญ (Inviter) ที่ประเทศเกาหลี (สำคัญมาก!)
- จดหมายเชิญ (Invitation Letter / 초청장) ผู้เชิญต้องเขียนจดหมายแนะนำตัวเอง, ระบุความสัมพันธ์กับผู้สมัคร, วัตถุประสงค์ในการเชิญ, และระยะเวลาที่จะให้พำนักอยู่ (ต้องมีลายเซ็นหรือตราประทับ)
- หนังสือค้ำประกัน (Guarantee Letter / 신원보증서) เป็นฟอร์มทางการเพื่อรับรองว่าผู้เชิญจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายและดูแลผู้สมัครระหว่างที่อยู่ในเกาหลี และรับรองว่าจะเดินทางกลับตามกำหนด
- เอกสารยืนยันตัวตนของผู้เชิญ
- สำเนาบัตรประชาชนเกาหลี หรือ สำเนาบัตร Alien Registration Card (ARC) กรณีผู้เชิญเป็นชาวต่างชาติที่ทำงาน/อาศัยในเกาหลี
- เอกสารพิสูจน์ความสัมพันธ์ฝั่งเกาหลี เช่น หนังสือรับรองครอบครัว (가족관계증명서)
- เอกสารรับรองการเงินและการงานของผู้เชิญ
- หนังสือรับรองการทำงาน (재직증명서)
- เอกสารหลักฐานการเสียภาษี (소득금액증명원) เพื่อแสดงว่ามีสถานะมั่นคงเพียงพอที่จะรับรองผู้มาเยือนได้

ขั้นตอนการยื่นขอวีซ่า
กระบวนการยื่นจะคล้ายกับการยื่นวีซ่าท่องเที่ยว คือนำเอกสารทั้งหมดของทั้งสองฝั่งมายื่นที่ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย โดยไม่ต้องจองคิวล่วงหน้า การขอวีซ่า เป็นทางเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับผู้ที่มีเป้าหมายการเดินทางที่ชัดเจนเพื่อไปหาคนสำคัญ การมีเอกสารจากผู้เชิญที่น่าเชื่อถือและครบถ้วน จะช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัติวีซ่าได้อย่างมาก หากคุณไม่แน่ใจเรื่องการเตรียมเอกสารหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเคสของคุณ Couplemarryvisa พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลในทุกขั้นตอน เพื่อให้การเดินทางของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น ติดต่อเราเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
- Website: https://couplemarrykorea.com/
- TikTok: @couplemarry
- Instagram: @couplemarryvisa
- LINE: @couplemarry